วันพุธที่ 11 มกราคม พ.ศ. 2555

นิทาน เรื่อง คนเกียจคร้านทำนา

หนุ่มชาวนาผู้หนึ่งซึ่งเป็นคนเกียจคร้านยิ่งนัก ครั้นเมื่อได้หว่านข้าวในที่นาของตนแล้ว ก็ทิ้งขว้างมิยอมใส่ใจหว่านไถอย่างเพื่อนชาวนาคนอื่นๆ
ครั้นเมื่อต้นข้าวของตนแคระแกร็นและมิเจริญงอกงามเต็มผืนนาอย่างของเพื่อนบ้านจึงให้นึกประหลาดใจเป็นยิ่งนัก
“เพื่อนเอ๋ยทำไมต้นข้าวในนาของพวกเจ้าถึงได้ออกดอกออกรวงสวยสะพรั่งเต็มนาข้าวไปหมด ทำไมผืนนาของฉันขึ้นบ้างไม่ขึ้นบ้าง พวกเจ้ามีเคล็ดลับดีๆอย่างไรช่วยแนะนำบ้างสิเพื่อนเอ๋ย”
ชาวนาหนุ่มผู้เกียจคร้านและโง่เขลาไถ่ถามเพื่อนบ้านด้วยความรู้สึกอิจฉามิใช่น้อย
ชาวนาเพื่อนบ้านได้ฟังเช่นนั้นก็เอ่ยเป็นเชิงประชดขึ้นว่า
“เคล็ดลับน่ะหรือไม่ยากหรอกเพื่อนเอ๋ย ถ้าเจ้าอยากให้ต้นข้าวงอกงามเร็วก็ให้มันได้ดมกลิ่นจอบเสียบ้างสิ”
ชาวนาหนุ่มผู้เกียจคร้านได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจยิ่งนัก วันรุ่งขึ้นจึงรีบเอาจอบของตนไปวางไว้ที่กลางผืนนา แล้วก็ล้มตัวนอนหลับสบายจนกระทั่งเย็นย่ำจึงได้ลุกขึ้นไปแบกจอบกลับบ้าน
พอเช้าวันรุ่งขึ้นก็ออกไปที่ผืนนาเอาจอบไปวางไว้กลางทุ่งนาแล้วก็นอนหลับสบายจนเย็นค่ำอีก เป็นเช่นนั้นทุกวันจนกระทั่งเวลาผ่านไปเดือนเศษๆ เขาก็ยังไม่เห็นว่าต้นข้าวของเขาจะเจริญงอกงามออกดอกออกรวงแต่อย่างในนาข้าวของเพื่อนบ้านแต่อย่างใด
ในทางตรงกันข้ามต้นข้าวของตนมีแต่จะยิ่งแห้งเหี่ยวอับเฉาจนตายไปหมดทั้งผืนนา
ชาวนาหนุ่มผู้เกียจคร้านจึงเดินไปหาเพื่อนบ้านที่มีที่นาติดกัน เขายืนเกาศีรษะพลางเอ่ยถามเพื่อนบ้านว่า
“เพื่อนเอ๋ย เพื่อนมีวิธีอื่นที่เป็นเคล็ดลับดีๆ ที่จะแนะนำข้าอีกหรือไม่ เพราะวิธีเดิมนะสงสัยจะไม่ได้ผล คงเป็นเพราะจอบของข้านะสงสัยคงจะไม่มีกลิ่นให้ต้นข้าวดมทุกวันจึงทำให้ยังไม่เติบโตงอกงามมีแต่จะตายลงจนหมดน่ะสิ”

นิทานเรื่องนี้สอนให้รู้ว่า คนโง่และคนเกียจคร้านมักคอยแต่จะให้ผู้อื่นคอยช่วยเหลือ และไม่ยอมที่จะลำบากเพื่อแลกมาซึ่งความสำเร็จใดๆ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น